YIPENG Rally Navigator กิจกรรมนี้พาคุณไปสัมผัส 11 สถานที่ท่องเที่ยวที่สะท้อนถึงความงดงามและประวัติศาสตร์อันยาวนานของเมืองเชียงใหม่ แต่ละแห่งล้วนมีเอกลักษณ์และเรื่องราวที่น่าจดจำ
ตั้งแต่วัดวาอารามที่ประดับประดาด้วยสถาปัตยกรรมที่งดงาม สถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม
ไปจนถึงวิถีชีวิตชาวบ้าน ซึ่งจะทำให้คุณรู้สึกถึงเสน่ห์ของเมืองนี้อย่างแท้จริง พร้อมกับการเก็บประทับตราที่ระลึกจากธงที่ประดับตามสถานที่ต่าง ๆ ในการเดินทางครั้งนี้ทั้ง 11 จุดดังต่อไปนี้
1. วัดโลกโมฬี
วัดโลกโมฬีเป็นหนึ่งในวัดเก่าแก่ที่สำคัญของเชียงใหม่ แม้ไม่มีหลักฐานแน่ชัดเกี่ยวกับการก่อสร้าง
แต่ชื่อวัดได้ถูกบันทึกในตำนานของวัดพระธาตุดอยสุเทพที่มีอายุยาวนานกว่า 500 ปี จนถึงปี พ.ศ. 2502 กรมศิลปากรได้ประกาศให้วัดโลกโมฬีเป็นโบราณสถานแห่งชาติ
ภายในวัดมีพระวิหารไม้แกะสลักลวดลายแบบโบราณที่สวยงาม เป็นจุดถ่ายภาพยอดนิยม
และมีองค์พระเจดีย์ขนาดใหญ่สำหรับกราบไหว้ขอพร นอกจากนี้ในช่วงเทศกาลยี่เป็ง วัดโลกโมฬี
จะประดับไฟสวยงาม เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดหากมาเยือนเชียงใหม่ในช่วงนี้
2.วัดราชมณเฑียร
วัดราชมณเฑียร ตั้งอยู่ในเขตเมืองเก่าของจังหวัดเชียงใหม่ เป็นวัดเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์กว่า 600 ปี ประกอบไปด้วยสถาปัตยกรรมที่งดงาม วัดนี้มีความสำคัญทั้งในด้านประวัติศาสตร์และศิลปะลายคำแบบล้านนา สถาปัตยกรรมภายในวัดเป็นแบบล้านนาที่ละเอียดอ่อน สะท้อนถึงศิลปะดั้งเดิมของภาคเหนือ โดยเฉพาะพระวิหารที่มีลวดลายแกะสลักไม้ที่ประณีตและเป็นเอกลักษณ์ของเมืองเชียงใหม่
วัดราชมณเฑียรมีความผูกพันกับชุมชนในพื้นที่มาช้านาน และยังเป็นสถานที่ประกอบพิธีทางศาสนา
ที่สำคัญในช่วงเทศกาลต่างๆ ของล้านนา นอกจากนั้น วัดนี้ยังเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวและผู้แสวงบุญ
มาเยี่ยมเยียนเพื่อสักการะและขอพร ทำให้วัดราชมณเฑียรเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนเชียงใหม่
3.วัดดับภัย
วัดดับภัยเป็นหนึ่งในวัดเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ในเมืองเชียงใหม่ ชื่อวัด "ดับภัย" มีความหมายที่ลึกซึ้ง
โดยสื่อถึงการสิ้นสุดหรือการดับทุกข์และภัยพิบัติทั้งหลาย วัดดับภัยสร้างขึ้นในสมัยอาณาจักรล้านนา
แต่ไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่าเกิดขึ้นในปีใด แต่การตกแต่งและสถาปัตยกรรมของวัดยังคงความเป็นล้านนาดั้งเดิม โดยมีพระวิหารไม้และพระเจดีย์ที่เป็นสถาปัตยกรรมแบบล้านนา นอกจากนี้วัดยังมีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์หลายองค์ที่ผู้คนเชื่อกันว่าสามารถช่วยขจัดปัดเป่าทุกข์ภัยให้หายไปได้
วัดดับภัยเป็นที่นิยมของผู้คนทั้งชาวบ้านและนักท่องเที่ยว ซึ่งมาเพื่อสักการะและขอพร โดยเฉพาะ
ในช่วงที่ต้องการขอให้พ้นจากอุปสรรคต่างๆ ทั้งนี้ วัดยังเป็นแหล่งการเรียนรู้เกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรมล้านนาและเป็นสถานที่ที่ยังคงรักษาพิธีกรรมทางพุทธศาสนาอย่างเคร่งครัด
4.วัดพระสิงห์วรวิหาร
วัดพระสิงห์วรวิหารเป็นวัดที่สำคัญและมีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ สร้างขึ้นในสมัยอาณาจักรล้านนาประมาณปี พ.ศ. 1888 โดยกษัตริย์พญาผายูแห่งเชียงใหม่ วัดนี้มีความสำคัญทางศิลปวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของภาคเหนือ และเป็นที่ตั้งของพระพุทธสิหิงค์ (หรือพระสิงห์) พระพุทธรูปสำคัญที่มีศิลปะล้านนาอันงดงาม เป็นที่เคารพสักการะของชาวเชียงใหม่และนักท่องเที่ยว
ภายในวัดมีพระวิหารลายคำ ซึ่งเป็นวิหารที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งของล้านนา โดยมีการตกแต่งด้วยลวดลายปิดทองลายคำอย่างประณีต ภาพจิตรกรรมฝาผนังภายในวิหารเล่าเรื่องราวและชีวิตของชาวล้านนา
ในอดีต และยังคงเป็นศิลปะที่สวยงามและทรงคุณค่า นอกจากนี้ วัดพระสิงห์วรวิหารยังเป็นสถานที่จัดงานประเพณีสำคัญ วัดแห่งนี้จึงถือเป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนเชียงใหม่
5.พระบรมราชานุสาวรีย์สามกษัตริย์
พระบรมราชานุสาวรีย์สามกษัตริย์ ตั้งอยู่ในเชียงใหม่ สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระมหากษัตริย์สามพระองค์ของอาณาจักรล้านนา ได้แก่ พระเจ้ามหาวงศ์, พระเจ้ากาวิละ, และพระเจ้าสุริยวงศ์
โดยมีวัตถุประสงค์ในการรำลึกถึงความสำคัญในการพัฒนาความเจริญรุ่งเรืองให้กับอาณาจักร
และเป็นสัญลักษณ์ของความสามัคคีในการปกครอง
อนุสาวรีย์นี้สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2540 มีการออกแบบที่สวยงาม ประกอบด้วยรูปปั้นของทั้งสามพระองค์นั่งอยู่บนฐานหินอ่อน สถานที่นี้ยังเป็นจุดจัดกิจกรรมต่าง ๆ เช่น เทศกาลและการแสดงศิลปวัฒนธรรม
เพื่อให้ผู้คนได้เรียนรู้และเคารพในประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของล้านนา รวมถึงเป็นบริเวณจัดบูทกิจกรรมหลักของงานยี่เป็ง
6.วัดพันเตา
วัดพันเตาเป็นวัดเก่าแก่ตั้งอยู่ในเมืองเชียงใหม่ ประเทศไทย ตั้งอยู่ติดกับวัดเจดีย์หลวง ภายในมีอาคารอุโบสถที่สร้างขึ้นจากไม้สักทั้งหมด ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่หาชมได้ยากในสถาปัตยกรรมไทย
อุโบสถนี้เดิมเคยใช้เป็นโรงเก็บไม้แกะสลักของราชวงศ์เชียงใหม่ในอดีต ก่อนจะถูกปรับให้เป็นอุโบสถของวัด ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของชาวเชียงใหม่และนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมทางศาสนาและวัฒนธรรมต่าง ๆ อย่างเช่น การประดับโคมไฟในเทศกาลยี่เป็งที่ทำให้วัดพันเตาเป็นจุดเด่นในการดึงดูดนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสความงดงามของประเพณีล้านนา
7.วัดดอกเอื้อง
วัดดอกเอื้อง ตั้งอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ เป็นวัดที่มีความสำคัญในด้านศิลปะและวัฒนธรรมล้านนา
มีพระอุโบสถที่งดงามและพระพุทธรูปที่มีชื่อเสียง วัดนี้เป็นที่รู้จักในเรื่องการทำบุญและจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่ออนุรักษ์ประเพณีท้องถิ่น รวมถึงเป็นสถานที่ที่ผู้คนมักมาเยี่ยมชมเพื่อความสงบและทำสมาธิ
8.วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร
วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร เป็นวัดสำคัญในจังหวัดเชียงใหม่ มีเจดีย์ที่สูงใหญ่และโดดเด่น
ซึ่งสร้างขึ้นในรัชสมัยของพระเจ้าแสนเมืองมา กษัตริย์ลำดับที่ 7 ของราชวงศ์มังราย
เป็นที่เก็บพระบรมสารีริกธาตุและเป็นศูนย์กลางในการประกอบพิธีกรรมทางพุทธศาสนา
ภายในวัดมีศิลปกรรมที่งดงามและประวัติศาสตร์ที่สำคัญ ทำให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ
สำหรับนักท่องเที่ยวและผู้ที่สนใจในวัฒนธรรมล้านนา
9.วัดเจ็ดลิน
วัดเจ็ดลิน ตั้งอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ เป็นวัดที่มีความสำคัญทางศิลปกรรมและวัฒนธรรมล้านนา
มีพระอุโบสถและเจดีย์ที่งดงาม วัดนี้เป็นที่รู้จักในด้านการสักการะพระพุทธรูปและการทำบุญ
เป็นสถานที่ที่ผู้คนมักมาเพื่อความสงบและทำสมาธิ นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมทางศาสนาต่าง ๆ
เพื่อส่งเสริมประเพณีท้องถิ่น
10.ตลาดประตูเมืองเชียงใหม่
ตลาดประตูเมืองเชียงใหม่ เป็นตลาดที่ตั้งอยู่บริเวณประตูเมืองเชียงใหม่ เป็นสถานที่จำหน่ายสินค้าท้องถิ่น อาหาร street food และของที่ระลึกต่าง ๆ นักท่องเที่ยวสามารถพบกับบรรยากาศที่คึกคักและมีชีวิตชีวา โดยเฉพาะในช่วงเย็นที่มีการตั้งร้านค้าและขายสินค้าหลายหลาก สถานที่นี้เป็นจุดหมายที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสวัฒนธรรมและชีวิตความเป็นอยู่ของคนเชียงใหม่
11.คลองแม่ข่า
คลองแม่ข่า น้ำแม่ข่า หรือ แม่น้ำข่า เป็นเส้นทางน้ำโบราณของจังหวัดเชียงใหม่
หนึ่งในชัยภูมิที่พญามังรายทรงเลือกที่จะสร้างเมืองเชียงใหม่เมื่อกว่า ๗๐๐ ปีก่อน
มีความยาวประมาณ ๓๐ กิโลเมตร ทำหน้าที่เป็นคูเวียงชั้นนอกที่โอบล้อมเมือง
และเป็นทางระบายน้ำล้นลงสู่แม่น้ำปิงช่วยการป้องกันน้ำท่วม
แต่จากการขยายตัวของชุมชนเมือง ทำให้เกิดปัญหาด้านสภาพแวดล้อม คุณภาพน้ำต่ำเกินค่ามาตรฐาน ความทรงจำด้านประวัติศาสตร์ของสายน้ำถูกกลืนหายไปกับความเจริญที่รุกคืบเข้ามาอย่างรวดเร็ว
ระบบนิเวศเสื่อมโทรม จนในปี พ.ศ. ๒๕๕๕ แนวคิดในการฟื้นฟูคลองแม่ข่าจึงเกิดขึ้น โดยอาศัยความร่วมมือของทุกภาคส่วน ขุดลอกคลอง รณรงค์สร้างความร่วมมือของภาคประชาชนในการดูแลรักษาแหล่งน้ำ การจัดการระบบบัดน้ำเสียในเขตพื้นที่เมือง การปรับปรุงภูมิทัศน์เปิดพื้นที่เพื่อสาธารณประโยชน์
ของชุมชน รวมทั้งเพิ่มศักยภาพด้านการท่องเที่ยว อันเป็นการปลุกสายน้ำแห่งนี้ให้มีชีวิตเช่นครั้งอดีต